โปรโมชั่นสุดฮิต
ที่ Dr.Seen
หัตถการลดเม็ดสีผิวมีกี่ประเภท และเหมาะกับใคร?
1. โปรแกรม Pico Laser
หรือ Picosecond Laser คือนวัตกรรมเลเซอร์ความงามที่ทันสมัยและเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เลเซอร์ชนิดนี้ทำงานด้วยการปล่อยพลังงานแสงในระยะเวลาที่สั้นมากระดับ Picosecond (1 ในล้านล้านส่วนของวินาที) ทำให้เม็ดสีที่ผิดปกติในผิวหนังแตกตัวเป็นอนุภาคเล็ก ๆ คล้าย "ฝุ่น" ซึ่งร่างกายจะกำจัดออกไปได้ง่ายและมีประสิทธิภาพกว่าเลเซอร์รุ่นเก่าที่ใช้หน่วยเป็น Nanosecond (1 ในพันล้านส่วนของวินาที) ซึ่งเป็นกลไกที่เรียกว่า"Photoacoustic Effect" ต่างจากเลเซอร์รุ่นเก่าที่ใช้ความร้อนเป็นหลัก ทำให้ โปรแกรม Pico Laser ลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง เช่น ผิวไหม้ หรือรอยดำหลังการรักษา
1.1 โปรแกรม Pico Laser ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
Pico Laser มีความสามารถที่หลากหลายและสามารถแก้ไขปัญหาผิวได้หลายอย่าง
- ปัญหาเม็ดสีผิว:เป็นจุดเด่นที่สุดของ Pico Laser ในการรักษาปัญหาเม็ดสีผิวทั้งในชั้นตื้นและชั้นลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น
- ฝ้า (Melasma): ช่วยลดเลือนฝ้าอย่างอ่อนโยน โดยไม่ทำให้เกิดความร้อนสะสมที่อาจกระตุ้นให้ฝ้าเข้มขึ้น
- กระ (Freckles, Lentigines): กำจัดเม็ดสีของกระที่เกิดจากแสงแดดและอายุ
- จุดด่างดำและรอยสิว (Post-Inflammatory Hyperpigmentation – PIH): ลดรอยดำที่เกิดจากการอักเสบของผิว
- การลบรอยสัก: Pico Laser สามารถทำลายเม็ดสีหมึกสักได้หลากหลายสีได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะสีที่ลบยากอย่างสีฟ้าและสีเขียวทำให้การลบรอยสักเป็นไปอย่างรวดเร็วและได้ผลดีกว่าเลเซอร์แบบเดิม
- การฟื้นฟูสภาพผิวและกระตุ้นคอลลาเจน: พลังงานของ Pico Laser สามารถลงลึกถึงชั้นหนังแท้เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน รูขุมขนกระชับขึ้น และลดริ้วรอยเล็ก ๆ แถมยังทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นอีกด้วย
- หลุมสิว: ด้วยการใช้หัวยิงแบบพิเศษ (Fractional) สามารถช่วยปรับสภาพผิวและลดเลือนรอยแผลเป็นจากสิวชนิดหลุมได้
1.2 โปรแกรม Pico Laser เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ และสีผิวไม่สม่ำเสมอ
- ผู้ที่ต้องการลบรอยสัก โดยเฉพาะรอยสักที่มีหลายสี
- ผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวหน้าไม่เรียบเนียน และมีริ้วรอยเล็ก ๆ
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใส และดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือผิวคล้ำ เพราะ Pico Laser มีความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงต่ำกว่าเลเซอร์ทั่วไป
2. โปรแกรม CO2 Laser
(Carbon Dioxide Laser) เลเซอร์ชนิดนี้เป็นที่นิยมมายาวนาน และถูกยกให้เป็น “gold standard” ของเลเซอร์กลุ่มผลัดเซลล์ผิว (Resurfacing) โดยใช้ลำแสงความยาวคลื่น 10,600 นาโนเมตร ที่ถูกดูดซับโดยโมเลกุลของน้ำในผิว ส่งผลให้เซลล์ผิวชั้นบนที่เสื่อมสภาพถูกกำจัดออกอย่างแม่นยำ พร้อมส่งผ่านความร้อนลงสู่ชั้นผิวหนังแท้ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ผิวใหม่ที่เกิดขึ้นจึงเรียบเนียน กระชับ และสุขภาพดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ปัจจุบัน CO2 Laser ได้พัฒนาเป็นแบบ Fractional CO2 Laser ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า โดยจะปล่อยลำแสงเลเซอร์เป็นจุดเล็กๆ จำนวนมากลงสู่ผิวหนัง ทำให้เกิดการทำลายเซลล์ผิวเป็นช่องเล็กๆ ในขณะที่ผิวบริเวณรอบข้างยังคงอยู่ครบถ้วน ทำให้ผิวฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงลง
2.1 โปรแกรม CO2 Laser ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
CO2 Laser มีประสิทธิภาพสูงในการแก้ไขปัญหาผิวที่หลากหลาย โดยเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความไม่เรียบเนียนของผิวและริ้วรอย:
- รอยแผลเป็นจากสิว (Acne Scars): ถือเป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่ CO2 Laser มีประสิทธิภาพสูงที่สุด เนื่องจากสามารถทำลายพังผืดใต้ผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในหลุมสิว ทำให้รอยหลุมตื้นขึ้นและผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- ริ้วรอยเหี่ยวย่น (Wrinkles) และผิวที่ถูกทำลายจากแสงแดด (Sun Damage): สามารถลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ และริ้วรอยปานกลาง รวมถึงช่วยปรับสภาพผิวที่ถูกทำลายจากแสงแดดให้กลับมากระจ่างใสและอ่อนเยาว์ขึ้น
- กระชับผิวและรูขุมขน: การสร้างคอลลาเจนใหม่ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและตึงกระชับขึ้น ส่งผลให้ รูขุมขนที่กว้างดูเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
- กำจัดไฝ หูด ติ่งเนื้อ และหูดหงอนไก่: ด้วยความแม่นยำสูงของเลเซอร์ ทำให้สามารถกำจัดเนื้อเยื่อส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดโอกาสเกิดรอยแผลเป็น
- รอยแผลเป็นชนิดอื่นๆ: เช่น รอยแผลเป็นนูน (Hypertrophic Scars) และรอยแผลเป็นจากการผ่าตัด
- ผู้ที่มีปัญหาติ่งเนื้อ หูด หูดข้าวสุก หรือซีสต์ไขมันใต้ผิวหนัง ขี้แมลงวัน : ต้องการกำจัดปัญหาเหล่านี้ได้อย่างแม่นยำ
2.3 ข้อควรระวังและผู้ที่ไม่เหมาะกับการทำ CO2 Laser:
- ผู้ที่มีผิวสีเข้ม (Fitzpatrick Skin Type IV ขึ้นไป): เลเซอร์ชนิดนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดรอยดำหลังการรักษา (Post-Inflammatory Hyperpigmentation – PIH) เนื่องจากเม็ดสีในผิวที่สูงกว่า ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดและอาจพิจารณาทางเลือกอื่น
- ผู้ที่มีสิวอักเสบจำนวนมาก: การทำเลเซอร์ในขณะที่มีสิวอักเสบอาจทำให้สิวแย่ลง
- ผู้ที่มีผิวบาง แพ้ง่าย หรือมีประวัติการเกิดแผลเป็นคีลอยด์ง่าย: ควรแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง