โปรแกรมผิวสวย โดย Dr.Seen หมอซีน by คลินิกเวชกรรมหมอสักกาเดช

ใครๆก็อยากผิวสวยกันทั้งนั้น แล้วผิวแบบไหนหล่ะที่เรียกว่าสวย?

โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการดูแลผิวให้อ่อนกว่าวัย โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้น รูขุมขนกว้าง หรือมีริ้วรอยเล็ก ๆ ที่เกิดจากผิวขาดน้ำค่ะ
เลือกอ่านตามหัวข้อ
by dr. Seen Clinic

โปรโมชั่นสุดฮิต

ที่ Dr.Seen

Dr.Seen หมอซีน by คลินิกเวชกรรมหมอสักกาเดช
โปรเเกรม UFM
ราคาพิเศษเพียงเเค่ 6,900 ได้ถึง 200 shots จองเลย ติดต่อเลย
Dr.Seen หมอซีน by คลินิกเวชกรรมหมอสักกาเดช
โปรเเกรม Oligio
เพียงเริ่มต้ม แค่ 6,900.- ได้ถึง 100 shots จองเลย ติดต่อเลย
Dr.Seen หมอซีน by คลินิกเวชกรรมหมอสักกาเดช
โปรเเกรม ร้อยไหมV-lift
แค่ 3,999.- จองเลย ติดต่อเลย

ปัญหาสุดฮิตที่หลายๆคนกังวล

1. ทำไมผิวหน้าถึงแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น?

       คนที่มีผิวหน้าแห้ง มักจะรู้สึกไม่สบายผิว แต่งหน้าไม่ติด และผิวดูไม่สดใส สาเหตุหลักมาจากการที่ผิวขาดน้ำและขาดเกราะป้องกันผิวที่แข็งแรง (Skin Barrier) ทำให้สูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย

2. รูขุมขนกว้างเกิดจากอะไร และจะทำให้รูขุมขนเล็กลงได้อย่างไร?

       ปัญหารูขุมขนกว้างสร้างความกังวลใจให้หลายคน เพราะทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน โดยสาเหตุหลักมาจากการผลิตน้ำมันส่วนเกิน (Sebum) ที่มากเกินไป ความหย่อนคล้อยของผิว และการทำความสะอาดที่ไม่ดีพอ

3. ทำไมผิวหน้าถึงหมองคล้ำและไม่กระจ่างใส?

       ความหมองคล้ำทำให้ผิวดูไม่สดใสและดูแก่กว่าวัย สาเหตุหลักเกิดจากการโดนแสงแดดทำร้ายสะสม ทำให้เกิดเม็ดสีเมลานิน (Melanin) มากขึ้น รวมถึงการผลัดเซลล์ผิวที่ไม่สม่ำเสมอ การใช้ชีวิตประจำวันก็มีผล เช่น คนที่ดื่มแอลกอฮอล์ หรือ สูบบุหรี่เป็นประจำ ก็ส่งผลให้ผิวเกิดอาการขาดน้ำ ขาดออกซิเจน และสูญเสียคอลลาเจน ทำให้ผิว  ดูโทรม หมองคล้ำ ปัญหาผิวดูมีอายุก็จะตามมาค่ะ

4. สิวและรอยสิวรักษาอย่างไรให้หายขาด?

       ปัญหาสิวเป็นปัญหาเรื้อรังสำหรับหลายคน ไม่ว่าจะเป็นสิวอักเสบ สิวอุดตัน หรือสิวผด สาเหตุเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งฮอร์โมน พันธุกรรม การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม และสุขอนามัยที่ไม่ดี การรักษาต้องแก้ที่ต้นเหตุร่วมกับการดูแลผิวหน้าอย่างถูกวิธีค่ะ

โปรแกรมงานผิว เติมความชุ่มชื้น คืนความฉ่ำวาวให้ผิว

       งานผิว (Skin Booster) คือการใช้สารเติมเต็มกลุ่ม Hyaluronic Acid (HA) ชนิดพิเศษที่ไม่เน้นการเพิ่มวอลลุ่ม แต่จะเข้าไปช่วยกักเก็บน้ำไว้ในชั้นผิวได้อย่างล้ำลึก ช่วยให้ผิวที่ขาดน้ำกลับมาชุ่มชื้น อิ่มฟู และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

  • งานผิวช่วยอะไร:
    • เพิ่มความชุ่มชื้น: เติมน้ำให้ผิวที่แห้งกร้าน ทำให้ผิวดูอิ่มฟูและเรียบเนียน
    • ลดริ้วรอย: ช่วยให้ริ้วรอยเล็ก ๆ จากผิวขาดน้ำดูตื้นขึ้น
    • คืนความกระจ่างใส: ทำให้ผิวดูฉ่ำวาว มีความ Glow และดูมีสุขภาพดีขึ้น
  • เหมาะกับใคร: ผู้ที่มีผิวแห้งกร้าน แต่งหน้าไม่ติด ผิวดูไม่สดใส หรือมีปัญหารูขุมขนกว้าง

1. ทำไมต้องทำให้ผิวชุ่มชื้นอยู่ตลอด ?

  • ช่วยให้ผิวแข็งแรง ผิวที่มีความชุ่มชื้นจะมีเกราะป้องกันผิว (skin barrier) ที่แข็งแรง ลดการระคายเคือง แห้งลอก หรือสิวอักเสบได้ดี
  • ผิวดูเรียบเนียน สดใสขึ้น เมื่อผิวได้รับน้ำเพียงพอ เซลล์ผิวจะฟูขึ้น รูขุมขนดูกระชับ แต่งหน้าติดทน
    ผิวดูสุขภาพดีแบบ “กลอสซี่สกิน”
  • ชะลอความแก่ก่อนวัย ผิวแห้งคือสาเหตุหลักของริ้วรอยเล็ก ๆ การเติมความชุ่มชื้นช่วยให้ผิวดูตึงและอ่อนเยาว์อยู่เสมอ
  • ปรับสมดุลผิว ลดความมันส่วนเกิน ผิวที่ขาดน้ำจะผลิตน้ำมันเพิ่มเอง ทำให้หน้ามันและสิวขึ้น
    แต่ถ้าผิวชุ่มชื้นพอ ระบบนี้จะสมดุล

โปรแกรมไหมน้ำ กระตุ้นคอลลาเจน ยกกระชับผิวให้ดูแน่นขึ้น

       ไหมน้ำ (Collagen Biostimulator) คือสารที่ฉีดเข้าไปใต้ผิวเพื่อ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ใหม่ในร่างกายอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ทำหน้าที่เหมือนไหมทั่วไปที่ดึงให้ผิวตึงทันที แต่จะเข้าไปฟื้นฟูโครงสร้างผิว ทำให้ผิวแข็งแรงและกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

  • ไหมน้ำช่วยอะไร: 
    • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน: ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและแน่นกระชับขึ้นจากภายใน
    • ลดความหย่อนคล้อย: ฟื้นฟูโครงสร้างผิว ทำให้ผิวที่เริ่มหย่อนคล้อยดูยกกระชับขึ้น
    • ปรับผิวให้เรียบเนียน: ช่วยให้ผิวที่ขรุขระหรือมีหลุมสิวดูตื้นขึ้นและเรียบเนียนขึ้น
  • เหมาะกับใคร: ผู้ที่มีผิวแห้งกร้าน แต่งหน้าไม่ติด ผิวดูไม่สดใส หรือมีปัญหารูขุมขนกว้าง

1. ทำไมต้องทำให้ผิวดูแน่นฟู ?

       “ผิวแน่นฟู” คือสัญญาณของ ผิวอ่อนเยาว์และสุขภาพดีจากภายใน

  • ผิวแน่นฟู = คอลลาเจนและอีลาสตินแข็งแรง เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ร่างกายผลิตคอลลาเจนลดลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ การดูแลให้ผิวแน่นฟูจึงช่วย “ชะลอวัย” ให้ผิวดูเด็กและสดใสตลอดเวลา
  • ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน เต่งตึง ไม่โทรม ผิวฟูคือผิวที่มีน้ำและสารสำคัญเพียงพอ มองแล้วผิวดูมีชีวิตชีวา ไม่แบน ไม่เหี่ยวย่น
  • แต่งหน้าติดง่าย ดูกล้องสดได้ไม่ต้องพึ่งฟิลเตอร์ เพราะพื้นผิวเรียบและเด้ง ทำให้เมคอัพติดผิวสวย เหมือนผิวดีตั้งแต่ต้น
  •  สะท้อนสุขภาพผิวโดยรวม ผิวที่แน่นฟู บ่งบอกถึงผิวที่ได้รับการบำรุงและมีการฟื้นฟูสมดุลดีจากภายใน

โปรแกรมไหมน้ำ กระตุ้นคอลลาเจน ยกกระชับผิวให้ดูแน่นขึ้น

       ความเจ็บขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่ส่วนใหญ่จะรู้สึกเจ็บในระดับที่ทนได้ค่ะ ความรู้สึกจะคล้าย ๆ กับการโดนเข็มทิ่มเล็ก ๆ หลายจุด ซึ่งอาจมีความรู้สึกตึง ๆ หรือแสบ ๆ เล็กน้อยขณะฉีด ทั้งนี้เนื่องจากตัวยาบางชนิดมีคุณสมบัติที่ทำให้เกิดความรู้สึกนี้ได้

ก่อนทำมีแปะยาชาหรือฉีดยาชาหรือไม่?

       โดยมาตรฐานแล้ว จะมีการแปะยาชาแบบทา (Topical Anesthesia) ให้ก่อนการฉีดทุกครั้ง โดยจะใช้เวลาประมาณ 30-45 นาทีเพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์เต็มที่ ซึ่งจะช่วยลดความเจ็บปวดขณะฉีดได้อย่างมากค่ะ ส่วนการฉีดยาชา (Infiltration Anesthesia) มักจะไม่ได้ใช้ในงานผิวทั่วไป ยกเว้นในกรณีที่คนไข้กลัวเข็มมาก ๆ หรือเป็นการทำหัตถการที่ต้องใช้ยาชาเฉพาะจุดจริง ๆ ค่ะ

คุณหมอจะฉีดตรงไหน?

       การเติมโปรแกรมงานผิวคุณหมอจะประเมินตามสภาพผิวว่าควรใช้ทั่วหน้า หรือเฉพาะจุดค่ะ การฉีดงานผิวส่วนใหญ่จะฉีดที่ ชั้นหนังแท้ (Dermis) ซึ่งเป็นชั้นผิวที่อยู่ตื้น ๆ ใกล้กับผิวหนังชั้นบนสุด โดยไม่ได้ฉีดลงลึกถึงชั้นใต้ผิวเหมือนการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเพิ่มวอลลุ่มเหตุผลที่ต้องฉีดในชั้นตื้นก็เพราะว่าชั้นหนังแท้เป็นแหล่งรวมของคอลลาเจนและอีลาสตินการฉีดตัวยาเข้าไปในชั้นนี้จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างตรงจุด ฟื้นฟูสภาพผิว และเติมความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวดูเรียบเนียน
ชุ่มชื้น และเปล่งปลั่งขึ้นค่ะ

การฉีดงานผิว จะเห็นผลทันทีเลยไหม?

       การฉีดงานผิวจะไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนทันทีหลังทำเสร็จค่ะ แต่จะค่อย ๆ เห็นการเปลี่ยนแปลงภายในระยะเวลาหนึ่ง

1. ทำไมถึงไม่เห็นผลทันที

       การเติมงานผิวเป็นการกระตุ้นให้เกิดการฟื้นฟูผิวจากภายใน ซึ่งต้องใช้เวลาให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ รวมถึงต้องรอให้สารที่เติมเข้าไปเริ่มทำงานในการกักเก็บน้ำและซ่อมแซมเซลล์ผิว ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ต้องใช้เวลาค่ะ

2. แล้วจะเห็นผลเมื่อไหร่?

       โดยส่วนใหญ่จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นใน 1-2 สัปดาห์แรก หลังจากนั้นผิวจะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดใน 1 เดือน หลังจากการฉีด ขึ้นอยู่กับชนิดของผลิตภัณฑ์และสภาพผิวของแต่ละบุคคลค่ะ

3. ระยะเวลาของผลลัพธ์

       ผลลัพธ์จากงานผิวจะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์และการดูแลตัวเอง หากต้องการให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน แนะนำให้กลับมาเติมซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์ค่ะ

เราช่วยอะไรคุณได้บ้าง?

       สำหรับผู้ที่มีปัญหาสภาพผิวหน้าไม่เรียบเนียน หมองคล้ำ แห้งกร้าน หรือเริ่มมีริ้วรอยเล็ก ๆ ที่ทำให้ผิวดูไม่สดใส ขอแนะนำนวัตกรรมเพื่อการฟื้นฟูผิวโดยเฉพาะ ได้แก่ โปรแกรมงานผิว และ โปรแกรมไหมน้ำ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ช่วยฟื้นฟูผิวจากภายในได้อย่างตรงจุดค่ะ

1. ใครบ้างที่ควรเติมโปรแกรมงานผิว

       คนที่มีผิวหน้าแห้ง มักจะรู้สึกไม่สบายผิว แต่งหน้าไม่ติด และผิวดูไม่สดใส สาเหตุหลักมาจากการที่ผิวขาดน้ำและขาดเกราะป้องกันผิวที่แข็งแรง (Skin Barrier) ทำให้สูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย

     1.1 ผู้ที่มีผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น

     1.2 ผู้ที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ จากผิวขาดน้ำ

     1.3 ผู้ที่มีผิวหน้าหมองคล้ำ ไม่สดใส

     1.4 ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน

     1.5 ผู้ที่ต้องการดูแลผิวแบบล้ำลึก

     1.6 ผู้ที่มีปัญหาสิวและหลุมสิว

       สรุปแล้ว โปรแกรมงานผิวเหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการฟื้นฟูและยกระดับคุณภาพผิวให้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาผิวแห้งกร้านและริ้วรอยเล็ก ๆ จากผิวขาดน้ำ หรือเป็นสิว ก็สามารถมีสุภาพผิวที่ดูดีได้ ไม่ว่าจะเป็นคนสีผิวเฉดไหนก็ตามค่ะ

หากคุณกำลังมองหาวิธีดูแลผิวที่เน้นการบำรุงและฟื้นฟูจากภายในอย่างยั่งยืน การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์งานผิว หรือไหมน้ำ จะช่วยให้คุณมีผิวที่สุขภาพดีและดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติค่ะ ทุกเคสคุณหมอใส่ใจตามปัญหาของคนไข้ ประเมินเฉพาะบุคคล เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและสวยดูเป็นธรรมชาติ เห็นการเปลี่ยนแปลงได้จริง ทุกเคสคุณหมอใส่ใจการวางเส้นไหมตามปัญหาของคนไข้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและสวยดูเป็นธรรมชาติ เห็นการเปลี่ยนแปลงได้จริง

เคล็ดลับความสวย

โปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ลดร่องลึก ให้ใต้ตาสดใส by Dr. Seen Clinic

ทำความรู้จักฟิลเลอร์ Juvederm คืออะไร ฉีดตรงไหนดี ทำไมคนนิยม