ฟิลเลอร์คืออะไร แล้วมันต่างจากที่อื่นยังไงทำไมต้องหมอซีน

ฟิลเลอร์ ใช้เติมเต็มเพื่อแก้ไขจุดบกพร่อง เสริมความอิ่มฟูให้ผิวหน้า ทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย ได้สัดส่วนมากขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด เติมตรงไหนได้บ้างมาดูกัน

โปรโมชั่นสุดฮิต

ที่ Dr.Seen

เลือกอ่านตามหัวข้อ

ฟิลเลอร์ฉีดตรงไหนได้บ้าง?

ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่พบตามธรรมชาติในผิวหนังของเราอยู่แล้ว ทำหน้าที่ช่วยกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้น เมื่อเติมเข้าสู่ผิวในชั้นความลึกที่เหมาะสม ฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหาย และปรับโครงสร้างใบหน้าให้ได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้นตาม Golden Ratioโดยสามารถเติมเติมได้แทบทุกบริเวณบนใบหน้า มาดูกันว่าตำแหน่งยอดนิยมที่แพทย์นิยมใช้ฟิลเลอร์ในการปรับปรุงแก้ไขปัญหาต่างๆบนใบหน้ามีตำแหน่งไหนบ้าง

1. ใต้ตา

ร่องลึกที่ลากจากปีกจมูกลงมาที่มุมปากซึ่งเกิดจากการยุบตัวของกระดูกแก้มด้านบนและการหย่อนคล้อยของผิวจึงทำให้เกิดเป็นร่องแก้ม ฟิลเลอร์จะช่วยให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้นในทันทีทำให้ใบหน้าดูเด็กลงอย่างชัดเจน ลดความลึกของเส้นร่องแก้ม

2. ร่องแก้ม

3. คาง

ปรับรูปหน้าให้เรียวสวยเป็นทรง V-Shape แก้ปัญหา คางสั้น, คางตัด, คางบุ๋ม หรือคางที่ไม่สมมาตร ผลลัพธ์ คือทำให้คางดูเรียวยาว ได้รูปทรงที่รับกับใบหน้ามากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัด

4. ดอลลี่อาย

เปลี่ยนลุคเป็นสาวหวานหรือตามเทรนพส.เกา พส.โต่วอิน เติมแล้วตาดูโต ดูน่ารักมากขึ้นเหมาะกับคนที่มีปัญหาใบหน้าดุ หรือเศร้า สามารถเติมดอลลี่อายช่วยเพิ่มความสดใสให้ใบหน้าได้

5. หน้าผาก

แก้ปัญหาหน้าผากแบน,หน้าผากยุบ,หรือมีริ้วรอยเส้นขวางชัดเจนเติมส่วนเว้าที่แบนหรือยุบให้โค้งนูนรับกับสันจมูกและขมับผลลัพธ์คือจะช่วยปรับหน้าผากให้โค้งนูนสวยรับกับใบหน้าได้อย่างลงตัว

6. ปาก

เติมปากให้เป็นทรงสวยตาม Reference แก้ปัญหา ริมฝีปากบาง,ปากแห้งตกร่อง,ต้องการปรับขอบปาก, หรือสร้างทรงปากตามเทรนด์ เช่น ปากกระจับ, ปากอวบอิ่มแบบพส.เกา พส.โต่วอิน หรือสายฝอเติมเสร็จทันทีปากจะดูเต็มชุ่มชื้นได้รูปทรงที่ชัดเจนอย่างเป็นธรรมชาติ

7. แก้มส้ม

สร้างจุดศูนย์กลางความอ่อนกว่าวัยลดปัญหาผู้ที่มีแก้มแบน หรือแก้มยุบ จากการลดน้ำหนัก ต้องการสร้างความนูนของ “แก้มส้ม” ที่บ่งบอกถึงความอ่อนวัยทำให้ใบหน้าดูมีมิติ มีความอิ่มฟู และช่วยยกกระชับผิวส่วนล่างที่หย่อนคล้อยให้ยกขึ้นได้เล็กน้อย

8. ขมับ

แก้ปัญหาขมับตอบ หรือขมับยุบตัวทำให้โหนกแก้มดูเด่นชัดส่งผลให้ใบหน้าดูดุฟิลเลอร์ช่วยปรับรูปหน้าส่วนขมับให้โค้งมนรับกับโหนกแก้มและหน้าผาก ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนโยนและละมุนมากขึ้น

9. ลิฟท์กรอบหน้า

เหมาะกับผู้ที่มีใบหน้าทรงกลมหรือแก้มเยอะมีกรอบหน้าที่เริ่มหย่อนฟิลเลอร์จะเข้าไปช่วยสร้างเส้นกรอบหน้าให้ดูชัดขึ้นทำให้ใบหน้าดูชมชัด มีมิติแบบไม่ต้องผ่าตัด

10. ร่องน้ำหมาก

แก้ไขมุมปากที่ตกและเส้นที่ลากลงจากมุมปาก ปัญหาที่แก้ไข เส้นที่ทำให้ใบหน้าดูเศร้าหรือบึ้งตึงอยู่ตลอดเวลา ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ทำให้ใบหน้าดูมีความสุขและเป็นมิตรมากขึ้น

11. แก้มตอบ

แก้ปัญหาแก้มตอบ / แก้มด้านข้างยุบ / หน้าโทรม จากอายุหรือการลดน้ำหนัก
ฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มบริเวณแก้มที่ฝ่อหรือยุบตัวลง ทำให้ใบหน้าดูมีน้ำมีนวล ไม่ซูบผอมหรือดูโทรม และผู้ที่มีปัญหาแก้มสองข้างตอบไม่เท่ากัน ทำให้ใบหน้าดูสมดุล

ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม?

การฉีดฟิลเลอร์มีโอกาสเกิดอันตรายได้น้อยมาก หากใช้เทคนิคที่ถูกต้อง ทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ที่ Dr.Seen คุณหมอซีนเป็นแพทย์ผู้สอนเติมฟิลเลอร์ให้กับแพทย์ท่านอื่น ยิ่งเป็นข้อบ่งชี้ว่า “หมอซีน”
มีประสบการณ์ด้านเทคนิค และได้รับความไว้วางใจในฐานะผู้ถ่ายทอดความรู้ ย่อมทำให้คนไข้มั่นใจในฝีมือการฉีดได้มากยิ่งขึ้นการเติมฟิลเลอร์ที่ถูกต้อง คุณหมอต้องเติมในชั้นผิวที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาสวยและดูเป็นธรรมชาติ

การเลือกใช้สารเติมเต็มที่ได้รับการรับรองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ลูกค้าควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานในการพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้มีความน่าเชื่อถือส่งตรงจากบริษัท ให้สแกนกล่องเพื่อตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องคลินิกที่ดีจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถตรวจสอบได้ผ่านแอปพลิเคชันหรือระบบของบริษัทผู้นำเข้าเพื่อให้คุณมั่นใจว่าสารเติมเต็มนั้นเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด

สามารถนำกล่องบรรจุภัณฑ์กลับบ้านได้ การที่คลินิกให้คุณนำกล่องกลับบ้านได้

เพื่อยืนยันว่าคุณได้รับ ผลิตภัณฑ์ที่คุณจ่ายเงินไปอย่างครบถ้วนและถูกต้องและสามารถใช้กล่องนั้นเป็นหลักฐานในการตรวจสอบหรืออ้างอิงข้อมูลของผลิตภัณฑ์ได้ในภายหลังได้

ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม ต้องดูแลตัวเองหลังฉีดยังไง?

1. ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม

โดยทั่วไปแล้ว ความเจ็บปวดจะอยู่ในระดับน้อยถึงปานกลาง และเป็นความรู้สึกที่สามารถทนได้แบบสบายๆ สาเหตุที่ความเจ็บไม่มากนั้นมาจาก

1.1 ยาชาแบบทา (Topical Anesthetic)

ก่อนฉีดแพทย์จะทายาชาบริเวณที่จะทำการฉีดทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที เพื่อลดความรู้สึกเจ็บจากเข็ม

1.2 ยาชาแบบฉีด (Local Anesthesia Injection)

คือการฉีดสารยาชาเข้าไปตรงบริเวณที่จะทำหัตถการ เพื่อให้ผิวและเนื้อเยื่อรอบๆ ชาชั่วคราว ลดความเจ็บปวดขณะทำหัตถการ

1.3 ส่วนผสมในฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน (HA Filler) มักจะมีการผสม ยาชาลิโดเคน (Lidocaine) เข้าไปในเนื้อฟิลเลอร์อยู่แล้ว ทำให้ขณะที่ฉีดตัวยาเข้าสู่ผิว ความรู้สึกเจ็บจะลดลงเรื่อย ๆ

1.4 เทคนิคของหมอซีน

คนไข้มักเรียกกันปากต่อปากว่า “คุณหมอซีนมือเบา” และด้วยเทคนิคหมอซีนที่เติมฟิลเลอร์ลงชั้นผิวอย่างแม่นยำ หรืออาจใช้ เข็มทู่ (Cannula) แทนเข็มปลายแหลม ซึ่งช่วยลดการทำลายเนื้อเยื่อ จึงทำให้การเติมฟิลเลอร์กับหมอซีน แทบไม่บวมหรือช้ำเลยค่ะ

2. แล้วต้องดูแลตัวเองยังไงหลังฉีด?

2.1 งดแต่งหน้า โดนน้ำบริเวณที่ฉีด 2 ชม.

2.2 งดแอลกอฮอล์ 7-14 วัน

2.3 งดเลเซอร์ที่มีความร้อนลึก เช่น RF ซาวน่า 7-14 วัน

2.4 งดนวดหน้าหรือกดแรงๆบริเวณที่ฉีด 2 สัปดาห์

2.5 ทานหมูกะทะ ชาบู เป่าผม ได้ตามปกติ

2.6 ต้องทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

2.7 1-2 วัน หลังทำจะมีการปวดบวมเล็กน้อย บริเวณที่ฉีดไม่มาก ให้ทานยาลดปวด

2.8 ฟิลเลอร์จะสมูทตัวเข้ากับผิวที่ 14-21 วัน

2.9 หากมีอาการผิดปกติให้สอบถามผ่านช่องทางออนไลน์ หรือเบอร์โทร

การเติมฟิลเลอร์เป็นการเติมเต็มจุดที่บกพร่อง โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นค่ะ สังเกตุจากเคสลูกค้าจริง ว่ารูปที่ผ่านการเติมฟิลเลอร์แล้ว ใบหน้าดูละมันมากขึ้น หลังทำเสร็จไม่ค่อยบวมหรือช้ำ สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติค่ะ

Dr.Seen Clinic ใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อผลลัพธ์ที่สวยที่สุด เพราะหมอซีนสร้างสรรค์ทุกความสวย ผลลัพธ์ชัดเจน เคสแน่น รีวิวแน่น การเติมโปรแกรมฟิลเลอร์ ไม่ใช่ว่าแพทย์ท่านไหนก็ทำได้โดยเฉพาะบริเวณใต้ตาและหน้าผาก เลือกแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เลือก Dr.Seen ทุกเคสคุณหมอใส่ใจตามปัญหาของคนไข้ ประเมินเฉพาะบุคคล เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและสวยดูเป็นธรรมชาติ เห็นการเปลี่ยนแปลงได้จริง ทุกเคสคุณหมอใส่ใจการวางเส้นไหมตามปัญหาของคนไข้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและสวยดูเป็นธรรมชาติ เห็นการเปลี่ยนแปลงได้จริง